การทำธุรกิจสร้างอาชีพเสริมทำเงิน "ตุ้มหูกะลา" ตลาดงานฝีมือ สร้างรายได้เสริมไม่จำกัด ทุกวันนี้ต้องแข่งกันทำมาหากิน เพื่อความอยู่รอด ดังนั้น งานฝีมือถือเป็นตลาดการค้าขายแห่งหนึ่งที่ไม่มีวันอดตาย เพราะสามารถผลิตด้วยการคิดสร้างสรรค์ของคนที่มีใจรักในงานฝีมือ งาน hand made เพิ่มคุณค่า เพิ่มรายได้
ตลาดงานฝีมือถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีคู่แข่งในตลาดมาก ซึ่งถ้าหากต้องการทำชิ้นงานให้ยืนระยะอยู่รอดได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ก็จำเป็นจะต้องรู้จักคิด รู้จักพัฒนาไอเดีย และทำให้ชิ้นงานโดดเด่นไม่ซ้ำใครซึ่งถ้าทำได้ โอกาสอยู่รอดก็มีสูง
วันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณา กับงาน ’ตุ้มหูกะลา“
****************
จิรายุ บัวชัย และ นิภาพร แซ่เฮ้ง เป็นเจ้าของชิ้นงาน ที่เปิดร้านจำหน่ายตุ้มหูกะลาอยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร โดยก่อนหน้าที่จะมายึดอาชีพผลิตงานฝีมือดังกล่าวนี้ ทั้งคู่เคยทำงานเป็นพนักงานบริษัท ก่อนจะลาออก และหันมาเปิดร้านจำหน่ายสินค้างานฝีมือ โดยระยะแรกเป็นการรับสินค้าคนอื่นมาจำหน่ายต่อ ก่อนที่จะมาผลิตชิ้นงานที่เป็นผลงานของตัวเองขึ้นในภายหลัง โดยหันมายึดอาชีพทำงานตุ้มหูจากกะลามะพร้าวที่ว่านี้มาได้ประมาณ 4-5 ปีแล้ว...
จิรายุ เล่าว่า เกิดไอเดียในการนำวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่นกะลาที่ว่านี้มาพัฒนาเป็นสินค้างานฝีมือ หลังจากที่มีโอกาสได้พบเห็นงานฝีมือหลายชนิดที่ผลิตจากวัสดุที่ว่านี้ โดยหลังจากหาข้อมูล รวมทั้งทดลองฝึกหัดทำจนมีความชำนาญมากขึ้น จึงเริ่มผลิตงานตุ้มหูกะลาเพื่อจำหน่าย โดยนอกจากชิ้นงานที่ทำขึ้นมานั้น จะมีวางขายอยู่ที่ร้านในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 15 ซอย 10/2 ห้อง 026 แล้ว ก็ยังทำการเปิดหน้าร้านออนไลน์ผ่านช่องทางอย่างเฟซบุ๊ก ในชื่อ www.facebook.com/pages/ตุ้มหูกะลาเพนท์-palakle ไว้ให้ลูกค้าใช้ติดต่อได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
สำหรับงานตุ้มหูกะลาที่ทำขึ้นนั้น นอกจากจะมีจุดเด่นที่การนำเอาเรื่องของวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่าย และราคาไม่แพงมาใช้แล้ว ก็ยังมีจุดขายอยู่ที่การนำเอาเทคนิคลงสี และการวาดลาย ที่เรียกว่า การเพนท์ เข้ามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชิ้นงานอีกด้วย เพื่อสร้างความโดดเด่น และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า จนกลายเป็นสินค้าที่น่าสนใจอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
’สินค้าที่ทำนั้น นอกจากจะมีจุดขายอยู่ที่การ นำวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายมาใช้แล้ว ยังนำเอาเรื่องของการเพนท์ การลงสี และการวาดลายเข้ามาประกอบใช้ด้วย เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับชิ้นงาน และเพื่อให้ลูกค้าจำชิ้นงานได้ดียิ่งขึ้น“ จิรายุ กล่าว
ทุนเบื้องต้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท ทุนวัสดุ อยู่ที่ 60% จากราคา ซึ่งราคาขายอยู่ที่คู่ละ 35-50 บาท
วัสดุอุปกรณ์ ประกอบด้วย กะลา, สีอะคริลิก, พู่กัน, แล็กเกอร์, แป้นตุ้มหู, กาวร้อน, เครื่องฉลุลาย, เครื่องเจีย (สำหรับใช้ขัดผิวกะลา), และเครื่องเจาะ (สำหรับใช้เจาะกะลา) ทั้งนี้ วัสดุหลักอย่างกะลามะพร้าวนั้น จะใช้วิธีซื้อเหมาจากโรงงาน ส่วนแป้นตุ้มหูจะเน้นใช้แป้นพลาสติก เพื่อให้ลูกค้าที่แพ้วัสดุประเภทโลหะ ก็ยังสามารถสวมใส่ตุ้มหูได้
ขั้นตอนการทำ เริ่มจากการทำความสะอาดกะลา โดยใช้เครื่องเจียขัดด้านในกะลา เพื่อขจัดสิ่งสกปรกจำพวกขุยมะพร้าว และเนื้อมะพร้าว ที่ติดอยู่ในกะลาออกให้หมดเสียก่อน ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดฝุ่นผง ทั้งนี้ ไม่ควรนำกะลาไปล้างนํ้า เพราะถ้าผึ่งกะลาไม่แห้ง ความชื้นที่สะสมอาจทำให้เกิดเชื้อราขึ้นที่กะลามะพร้าวได้
เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้นำกะลามาวางลงบนเครื่องเจาะ จากนั้นทำการ เจาะกะลาเพื่อขึ้นรูปทรงกลม เมื่อได้แล้วให้นำมาตัดด้วยเครื่องเจียเพื่อสร้างรูปทรงต่าง ๆ ให้กับตุ้มหู คือ รูปดาวห้าแฉก วงรี สามเหลี่ยม และรูปหยดนํ้า เสร็จแล้วนำตุ้มหูมาขัดด้วยเครื่องขัด ก่อนที่จะใช้กระดาษทรายทำการขัดอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ได้ผิวที่เรียบมากขึ้น ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดฝุ่นผงอีกครั้ง
ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงสีหรือการเพนท์ ให้ใช้พู่กันจุ่มสีอะครีลิก ทำการวาดลวดลายลงไปบนผิวของตุ้มหูกะลา ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นเคลือบเงาด้วยแล็กเกอร์ และนำแป้นตุ้มหูมาติดกับตุ้มหู เชื่อมให้ติดกันด้วยกาวร้อน ปล่อยทิ้งให้กาวแห้งสนิท ทำการสำรวจ ความเรียบร้อยของชิ้นงาน ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำงานตุ้มหูกะลาเพนท์
’ขั้นตอนมีไม่มาก แต่ต้องใจเย็น และต้องใช้ความประณีต เพราะวัสดุอย่างกะลา แม้จะดูแข็งแรง แต่หากตัดหรือเจาะไม่ดี หรือทำแรงไป ก็อาจจะเกิดความเสียหาย ทำให้ชิ้นงานแตกหัก ไม่สมบูรณ์ได้เช่นกัน“ จิรายุ กล่าว
***************
สนใจงาน ’ตุ้มหูกะลา“ โทร. 08-9476-7247 หรือติดต่อได้ตามช่องทางของร้านดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งงานตุ้มหูกะลาที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานเพ้นท์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานเกี่ยวกับเครื่องประดับที่สามารถใช้เป็น ’ช่องทางทำกิน“ ได้อย่างน่าสนใจ...
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น