วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ช่องทางทำมาหากิน หาเงินจากสวน "บุฟเฟ่ต์ผลไม้" Fruit Buffet 2557หาเงินง่าย ได้เงินเร็ว


ช่องทางทำมาหากิน หาเงินจากสวน "บุฟเฟ่ต์ผลไม้" Fruit Buffet หาเงินง่าย ได้เงินเร็ว สวนปลูกไม้ผลหลายชนิด อาทิ มังคุด ลองกอง ทุเรียน เงาะ กระท้อน มะยงชิด โดยเน้นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ เพื่อให้เป็นจุดขายของที่สวน สารสกัดชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพก็ทำขึ้นใช้เอง




“บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ในการ “เพิ่มมูลค่า-ช่วยระบายผลผลิต” ให้กับผู้ประกอบการทำสวนผลไม้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก จนทำให้ราคาตก นี่ก็ถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่เกษตรกรสวนผลไม้น่าจะนำมาปรับใช้ ที่วันนี้คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” นำมาให้พิจารณา...

ทั้งนี้ ทีมงานคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” ได้เข้าไปศึกษาแนวทาง “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ที่ “สวนประสมทรัพย์” ในพื้นที่ จ.ระยอง นำโดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดูวิธีสร้าง “ช่องทางการตลาด” ของเกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้รายนี้ โดย ประจวบ จำเนียรศรี เจ้าของสวนเล่าว่า ไม่ได้เป็นเกษตรกรมาตั้งแต่เริ่มแรก แต่ทำอาชีพค้าขายเสื้อผ้ากับรองเท้ามาก่อน ต่อมาเกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต เมื่อนำเงินทุนที่มีอยู่และเงินออมที่ได้เก็บสะสมไว้ไปลงทุนเล่นแชร์เจ้าหนึ่งที่เคยโด่งดัง และตกเป็นข่าวครึกโครมในอดีต สุดท้ายแชร์วงดังกล่าวล้ม ทำให้ต้องกลายเป็นคนมีหนี้สิ้นล้นตัว จนต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อมาใช้หนี้ หลังจากนั้นจึงได้เดินทางมาที่นี่เพื่อตั้งหลักใหม่ พร้อมเงินติดตัวมาเพียง 12,000 บาท โดยเริ่มจากอาชีพขายผลไม้ ต่อมาเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งจึงมีความคิดที่จะทำสวนผลไม้ของตนเอง จึงนำเงินก้อนดังกล่าวบวกกับเงินกู้จาก ธ.ก.ส. นำมาซื้อที่ดินจำนวน 3 ไร่ และเริ่มชีวิตชาวสวนในปี 2532 หลังจากนั้นก็ยึดอาชีพทำสวนผลไม้นี้เรื่อยมา และก็ได้ขยายสวนออกไปเพิ่มเติม จนปัจจุบันสวนผลไม้ของเขามีพื้นที่ราว 20 ไร่

“ที่สวนปลูกไม้ผลหลายชนิด อาทิ มังคุด ลองกอง ทุเรียน เงาะ กระท้อน มะยงชิด  โดยเน้นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ เพื่อให้เป็นจุดขายของที่สวน สารสกัดชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพก็ทำขึ้นใช้เอง ซึ่งปลอดภัยและยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย นอกจากผลไม้ที่เป็นรายได้หลักของสวนแล้ว ก็ยังมีผักสวนครัวที่ปลูกไว้เพื่อใช้เป็นรายได้หมุนเวียน เพราะผักสวนครัวนั้นสามารถเก็บขายได้ทุกวัน” ...นี่เป็นวิธีบริหารจัดการจากเจ้าของสวนผลไม้รายนี้ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ได้ สามารถใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้ไม่มีวันจน...

จุดน่าสนใจของสวนแห่งนี้ คือ “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” โดยเจ้าของสวน เล่าว่า...  “คิดว่าต้องหาวิธีใหม่ เพราะสวนผลไม้นั้น เมื่อผลผลิตออกมามากหรือออกมาพร้อมกัน ทำให้ขายยากและราคาก็ตก จึงต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการเปิดสวนผลไม้ให้คนเข้ามาชิมผลไม้สด ๆ จากในสวน ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีจากนักท่องเที่ยว จึงทำมาโดยตลอด”

ในการทำบุฟเฟ่ต์ผลไม้นั้น ประจวบได้นำพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ จำนวน 9 ไร่ ที่เป็นสวนผลไม้มาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว โดยเน้นรูปแบบ “การท่องเที่ยวเชิงเกษตร” โดยช่วงเวลาเปิดบุฟเฟ่ต์ผลไม้ของทางสวนจะเริ่มตั้งแต่ช่วงผลไม้ออกตามฤดูกาล...โดยส่วนใหญ่จะเปิดสวนบริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้แต่ละครั้งอยู่ที่ปีละ 3 เดือน...

“ปีนี้ฤดูเปลี่ยน ผลไม้ออกช้า จึงเปิดในช่วงพ.ค.-ก.ค. หรือตามสภาพความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเร็วหรือช้าจากนี้ก็แล้วแต่ ในฐานะคนที่ทำสวนผลไม้ให้บริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้ก็ต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเสมอ” …นี่ก็เป็นอีกคำแนะนำหนึ่งจากเจ้าของสวนผมไม้รายนี้

“สถานที่-สวนผลไม้” สำหรับการทำบุฟเฟ่ต์ผลไม้นั้น “ต้องมีความพร้อม” ในเรื่องสถานที่ก่อนเป็นสิ่งแรก โดยควรจะมีการจัดแบ่งพื้นที่ต่าง ๆ ไว้เป็นสัดส่วนเฉพาะ อาทิ อาคารรองรับนักท่องเที่ยวสำหรับใช้นั่งทานผลไม้, ร้านขายผลไม้สด, มุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมถึงซุ้มของฝาก-ของที่ระลึก นอกจากนั้นก็ควรจะจัด “มุมถ่ายรูป” ไว้ให้นักท่องเที่ยว หรือเปิดบริการ “ที่พักค้างคืน” ในรูปโฮมสเตย์ เพื่อเสริมรายได้อีกทางหนึ่งด้วยก็จะยิ่งดี ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทาง เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่สวนแห่งนี้ทำอยู่ และนอกจากในเรื่องสถานที่ การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะต้องพร้อมแล้ว ในเรื่องการจัด “กิจกรรมท่องเที่ยว” ก็เป็นอีกเรื่องที่ “ธุรกิจบุฟเฟ่ต์ผลไม้” สามารถนำมาพิจารณาปรับใช้ โดยที่สวนแห่งนี้ นอกจากมีกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ผลไม้ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ “วิถีเกษตร” เช่น สาธิตการทำปุ๋ยหมัก ทำน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น

“ค่าบริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้” ที่สวนประสมทรัพย์ มีราคาอยู่ที่คนละ 200 บาท แต่ถ้าหากต้องการรับประทานอาหารกลางวันด้วยก็เพิ่มเงินอีกคนละ 100 บาท รวมเป็น 300 บาทต่อคน  ทั้งนี้ เมื่อนำมาคิดเฉลี่ยรายได้จาก “ค่าหัวบุฟเฟ่ต์ผลไม้” แล้วนั้น จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อคน...

“การเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามานั้น  ควรมีการจำกัดจำนวนไว้บ้างด้วย เพราะถ้าหากรับเยอะเกินไป อาจทำให้ประสบปัญหาในการให้บริการที่ไม่ทั่วถึง รวมถึงอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกอึดอัด เนื่องจากมีคนแน่นสวนเกินไป ทั้งนี้ที่สวนจะรับนักท่องเที่ยวไม่เกิน 250 คนต่อวัน เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องบริการ และยังสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย” ...เจ้าของสวนประสมทรัพย์กล่าว

คนที่สนใจสามารถไปแวะชิมได้ที่ สวนประสมทรัพย์ (08-1377-3056) ตั้งอยู่เลขที่ 108/7 หมู่ 5 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง  ทั้งนี้ “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ที่มีจุดขายอยู่ที่ “ความสด” ก็นับว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำมาเป็น “ช่องทางทำกิน” ได้อีกแนวทางหนึ่ง ไม่เฉพาะแต่กับสวนผลไม้สวนอื่น ๆ ก็ทำได้...

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

..................................................................................

คู่มือลงทุน...บุฟเฟ่ต์ผลไม้

ทุนเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับขนาดของสวนผลไม้

ทุนวัตถุดิบ 270 บาทต่อคน

รายได้ 300 บาทต่อคน

แรงงาน 1 คนขึ้นไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น